“ภาวะเต้าซ้อน” ที่เกิดจากการเสริมหน้าอกนั้น แก้ไขได้อย่างไร

หน้าอกถือเป็นส่วนสำคัญในการบ่งบอกภาพลักษณ์ของผู้หญิง แต่เมื่ออายุมากขึ้น หรือเพิ่งมีบุตร ก็อาจทำให้หน้าอกนั้นหย่อนคล้อยไม่ยืดหยุ่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีเพิ่งมีบุตรนั้น อาจต้องให้นมบุตรเป็นระยะเวลานาน ทำให้ไขมันบริเวณเต้านมลดน้อยลง เกิดการหย่อนคล้อยได้ง่าย ดังนั้นเพื่อสร้างความมั่นใจให้กลับมาอีกครั้ง เทคนิคในการศัลยกรรมเสริมหน้าอกก็ยิ่งแพร่หลายมากขึ้นในปัจจุบัน แต่หากเกิดการผิดพลาดขึ้น ก็อาจส่งผลร้ายแรงต่อสภาพจิตใจได้ง่ายด้วย

หากต้องการแก้ไขภาวะเต้าซ้อนที่เกิดจากการเสริมหน้าอก ในกรณีที่หน้าอกมีขนาดเล็กและหย่อนคล้อย แล้วทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก อาจเกิดภาวะเต้าซ้อนที่บริเวณใต้เต้านมได้ จึงควรระวังเป็นอย่างยิ่ง ภาวะเต้าซ้อนก็คือ การที่ซิลิโคนที่เสริมเข้าไปทับเนื้อหน้าอกเดิมของเรา ทำให้เกิดเป็นเส้นซ้อนขึ้นมา หากทำการเสริมหน้าอกโดยไม่แก้ไขสภาพการหย่อนคล้อยเสียก่อน ก็อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะเต้าซ้อนได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีที่ซิลิโคนเข้าไปใต้กล้ามเนื้อหน้าอก เมื่อกล้ามเนื้อหดตัว ซิลิโคนอาจเลื่อนขึ้นบนได้ หรือเส้นรอยพับใต้หน้าอกอาจกลับคืนสู่สภาพเดิม แล้วอาจส่งผลให้เกิดการหย่อนคล้อย ไม่เข้ารูป นพ.ซอ อิลบอม รพ.ศัลยกรรมมาร์เบิ้ล กล่าวว่า “บริเวณที่สามารถเสริมซิลิโคนเข้าไปได้นั้นได้แก่การเสริมใต้กล้ามเนื้อ เสริมใต้ชั้นเนื้อเยื่อ และเสริมใต้สายสังเคราะห์น้ำนม ในกรณีที่เกิดภาวะเต้าซ้อนนั้น สามารถแก้ไขได้โดยใช้เทคนิคการเสริมหน้าอกแบบสองชั้น” และ “เทคนี้เป็นการสร้างรอยพับใหม่ขึ้นมา ทำให้ได้รูปทรงหน้าอกที่ดูเป็นธรรมชาติ และลดอัตราการศัลยกรรมแก้ไขด้วย” หุ่นเพรียวสวยหลังคลอดนั้นสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นได้ก็คือสภาพร่างกาย รวมทั้งหน้าอกที่หย่อนคล้อยลงนั่นเอง ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเลือกลักษณะซิลิโคน และเทคนิคการผ่าที่เหมาะสมกับตนเอง เพื่อป้องกันการศัลยกรรมแก้ในอนาคต ในทางเดียวกัน การศัลยกรรมเสริมหน้าอกนั้น ความเป็นธรรมชาตินสำคัญความขนาดและความใหญ่ของหน้าอก เพื่อให้ได้ผลงานที่เป็นที่น่าพอใจ จึงควรศึกษาขอมูลเกี่ยวกับการทำหน้าอกมาให้ดีเสียก่อน รวมไปถึงหาข้อมูลโรงพยาบาลศัลยกรรมที่ได้มาตรฐานและมีศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

รายการ